เครื่องซีลถุง

เครื่องซีลถุง
เครื่องซีลถุง ซีลง่ายปิดแน่นถนอมอาหารคงความอร่อยได้ยาวนาน

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หมอเปรม เดือดจับนักข่าวแก้ผ้าถ่ายคลิป หลังนักข่าวนำภาพแบบนี้ออกเผยแพร่

หมอเปรม

“หมอเปรม” เดือดกักตัวนักข่าวแก้ผ้าถ่ายคลิป หลังนำภาพวิวาห์หวานกับหญิงสาววัยกระเตาะออกเผยแพร่ ขณะ 5 นักข่าวมาดักรอสัมภาษณ์ถามความจริงที่หน้าเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หมอเปรมเรียกนักข่าวเข้าห้องล็อกประตูโมโหด่ายับ สั่งลูกน้องล็อกตัวนักข่าวอาวุโสแก้ผ้าถ่ายรูปขู่เตรียมโพสต์ประจาน ด้านนายกฯสื่อขอนแก่นเตรียมออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมเถื่อน ส่วนสภาฯจ่อถอดรางวัลจิตอาสา ขณะที่ผู้การฯขอนแก่นเร่งตรวจสอบ หากนักข่าวถูกกักขังจริงถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

จากกระแสสังคมออนไลน์แชร์ภาพ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ปรากฏภาพกำลังนั่งให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือประกบข้างหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดี พร้อมกับเงินสด 4 แสนบาท รวมทั้งพระพุทธรูปวางอยู่บนพานทอง ลักษณะเป็นพิธีสู่ขอสาวแต่งงานตามประเพณีของชาวอีสานจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นไปทั่วสารทิศ ด้านคนใกล้ชิดยืนยันเป็นเรื่องจริง เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. นพ.เปรมศักดิ์ผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงานกับนักเรียนสาวชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งแบบเงียบๆ ภายหลังตกเป็นข่าว นพ.เปรมศักดิ์ยังเก็บตัวเงียบไม่เปิดเผยถึงงานวิวาห์กับเจ้าสาววัยกระเตาะแต่อย่างใด

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ผู้สื่อข่าวหลายสำนักไปดักรอสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อ นพ.เปรมศักดิ์เดินทางมาถึงที่ทำงานแจ้งว่าให้นักข่าวมาพร้อมๆกันแล้วจะพูดทีเดียว

ต่อมาเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่เทศบาลเรียกผู้สื่อข่าวทั้งหมด 5 คนเข้าไปในห้องทำงาน นพ.เปรมศักดิ์ ประกอบด้วยผู้สื่อข่าวช่อง 3 นสพ.มติชน นสพ.เดลินิวส์ เนชั่นทีวี และเคเคซี เคเบิลทีวี มีเจ้าหน้าที่เทศบาล 4 คนเข้าไปด้วยแล้วล็อกประตูห้องทันที จากนั้น นพ.เปรมศักดิ์เปิดเผยว่า ไม่มีอะไรจะพูดหรือให้สัมภาษณ์ แต่ขอตำหนิสื่อว่าเอาภาพไปลงทำไมไม่ถามผมก่อน ผมก็อยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หลบหน้าไปไหน ผมคบกับนักข่าวมานานเป็นเรื่องเจ็บปวดมากนอนร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว เป็นการประจานเรื่องส่วนตัวและบิดเบือนข้อมูล เช่น การลงข่าวไปว่าเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเรียกเข้าพบเหมือนมีความผิด ทั้งที่จริงตนไปพบผู้ว่าฯเอง ที่ไปเพราะผู้ว่าฯ อยากขอบคุณตนที่ดึงเอาการประชุมสันนิบาตเทศบาลมาที่ จ.ขอนแก่น

นพ.เปรมศักดิ์เปิดเผยถึงภาพที่มีการแชร์นั่งกับหญิงสาวและมีธนบัตรวางอยู่บนพานทองว่าเป็นการช่วยเหลือครอบครัวผู้หญิงเพราะครอบครัวเขาเดือดร้อน ขอตำหนิสื่อว่าทำหน้าที่ไม่เหมาะสมมีเรื่องเยอะแยะจะแฉนักข่าวบ้าง คนไหนอยู่เดลินิวส์ลงหนักมาก อยากรู้ว่าถ้าถ่ายรูปคุณไปลงประจานคุณจะรู้สึกยังไง ขณะนั้นผู้สื่อข่าวพยายามอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับภาพที่มีการแชร์กันต่อ แต่ นพ.เปรมศักดิ์ไม่ยอมรับฟัง

เหตุการณ์ภายในห้องเริ่มตึงเครียดเมื่อ นพ.เปรมศักดิ์ไม่พอใจ สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลชายที่อยู่ในห้อง 4 คนเข้าล็อกตัวนายก่อสิทธิ์ กองโฉม อายุ 64 ปี ผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ที่ติดตามข่าวภาพการแต่งงานมาโดยตลอดแล้วถอดกางเกงออกจนเหลือกางเกงในตัวเดียว ถึงแม้นว่านายก่อสิทธิ์ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวอาวุโสจะอ้อนวอนขอร้องอย่างไรก็ไม่เป็นผล จากนั้น นพ.เปรมศักดิ์สั่งให้ลูกน้องถ่ายภาพนิ่งและคลิปเพื่อนำภาพไปประจานทางข่าวของเทศบาลและลงโพสต์ทางโซเชียล

ขณะเดียวกัน นพ.เปรมศักดิ์ยังพูดตำหนิ น.ส.จิติมา จันทร์พรม ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ทำให้ น.ส.จิติมาทนไม่ไหวร้องไห้ขอร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูแล้ววิ่งออกมานอกห้องทันที ส่วนผู้สื่อข่าวที่เหลือยังถูกกักตัวไว้อยู่ในห้องจนกระทั่งเวลา 12.00 น.นพ.เปรมศักดิ์อนุญาตให้ออกจากห้องไปได้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้สื่อข่าวที่ถูกกักตัวมึนงงกับพฤติกรรมของ นพ.เปรมศักดิ์จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่สะพัด

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ขอประณามพฤติกรรมนพ.เปรมศักดิ์เป็นการคุกคามและไม่ให้เกียรติสื่อ การที่สื่อไปหาเพราะต้องการไปสอบถามข้อเท็จจริง จะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นผลดีกับคนที่ตกเป็นข่าวด้วยซ้ำไปที่จะได้ออกมาชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง แต่ไม่ควรทำเช่นนี้ เนื่องจากหากไม่พอใจอะไรยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นในนามของสมาคมฯถือว่าการกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์เป็นบุคคลสาธารณะ มีความรู้ถึงระดับปริญญาเอกแต่กลับไม่ให้เกียรติสื่อ ขณะนี้ทางสมาคมฯเตรียมออกแถลงการณ์ประณามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หากมีการกักขังผู้สื่อข่าวจริงถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมกับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะแล้ว

สำหรับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีรายชื่อได้รับรางวัล “คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ในวันที่ 11 ส.ค.ที่รัฐสภา เป็นรางวัลที่คณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสของคณะกรรมการดำเนินงานโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบประชาชน มอบให้แก่ผู้มีจิตอาสาที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ จำนวน 7 คน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานมอบรางวัล ซึ่ง นพ.เปรมศักดิ์เป็นหนึ่งใน 7 คนที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ ในฐานะคุณหมอผู้ให้ความช่วยเหลือในด้านสาธารณสุขแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เนื่องจากได้จัดตั้งกองทุน “คนบ้านไผ่ไม่ทอดทิ้งกัน” เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนและจัดโครงการ I see you หรือโครงการเยี่ยมบ้านยามบ่าย เพื่อดูแลประชาชน และตามคนไข้ด้วยตัวเองถึงขอบเตียงเป็นการให้กำลังใจผู้ป่วย

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.กล่าวว่า คณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสที่จะมอบรางวัล “คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ในวันที่ 11 ส.ค.นั้น มีนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ กรณีที่มีรายชื่อ นพ.เปรมศักดิ์เป็นผู้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วยนั้น ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน หากพบว่ามีพฤติการณ์ขัดหลักการไม่เหมาะสมจริงอาจจะต้องทบทวนการมอบรางวัล

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรื่องการคุกคามสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แม้ผู้ตกเป็นข่าวจะเห็นว่าการนำเสนอข่าวของตนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็สามารถใช้สิทธิ์ทางกฎหมายต่อผู้ละเมิด ไม่ควรใช้กำลังกระทำการอันเป็นการแสดงออกถึงการคุกคามสื่อมวลชนเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ข่มขืนใจให้ผู้อื่นยอมจำนนโดยเป็นการทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายและเสรีภาพ ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา 310 ที่มีการหน่วงเหนี่ยวกักขังคุกคามเสรีภาพในร่างกาย สมาคมฯขอประณาม นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ เหตุการณ์นี้ขอให้บุคคล หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบนักการเมืองดำเนินการตามหลักจริยธรรม พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษ นพ.เปรมศักดิ์ตามกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักข่าวและข่มขู่ หน่วงเหนี่ยว กักขังคุกคามเสรีภาพในร่างกายอีกต่อไป


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/673894

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น