กรมเจ้าท่า นำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกู้ซาก เรือล่ม อยุธยา ได้แล้ว พร้อมลากเรือที่ลอยปริ่มน้ำแบบล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปยังท่าเรือศรีเจริญ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4-5 กม. ขณะที่พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 1 เป็น 28 ราย
วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ เรือล่ม อยุธยา บรรทุกโดยสารสมบัติมงคลชัยทับทิม ล่มที่บริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำจากหน่วยงานต่างๆ และอาสากู้ภัยได้ร่วมกันปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 19 ก.ย.จนกระทั่งเวลา 198.00 น.วันที่ 20 ก.ย.เจ้าหน้าที่พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 7 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ทั้งหมด 27 ราย ส่งผลให้ยังมีผู้สูญหายตามที่ญาติแจ้งอีก 2 ราย ซึ่งปฏิบัติการค้นหาจะยังดำเนินการต่อไปจนกว่าจะพบผู้สูญหายที่เหลือ
ส่วนการกู้ซาก เรือล่ม อยุธยา นั้น กรมเจ้าท่าฯ ได้ดำเนินการกู้ขึ้นมาได้แล้วเมื่อเวลา 15.30 น. ด้วยการนำเรือโป๊ะซึ่งติดตั้งเครนขนาดใหญ่ 2 ลำ จากกรมเจ้าท่าฯ เข้ามาจอดเทียบเรือที่จมลงหน้าตลิ่ง ตรงท่าน้ำของวัดสนามไชย แล้วใช้สายเคเบิลที่ทำจากไนลอนแบบเหนียวสอดร้อยเข้าไปใต้ท้องเรือที่จมตรงส่วนหัวเรือ และท้ายเรือ ซึ่งหากนับจากเริ่มสอดสายเข้าไปใต้ท้องเรือใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เรือเครนจึงสามารถยกเรือที่จมขึ้นมาได้ประมาณ 50% หรือพื้นเรือชั้น 2 ลอยโผล่พ้นน้ำได้สำเร็จ
ทั้งนี้ สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่ยกเรือขึ้นมาให้พ้นจากน้ำทั้งลำเพราะไม่ต้องการยกให้เรือลอยขึ้นมาทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย และตัวเรือเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ โดยจะมีการลาก เรือล่ม อยุธยา ที่ลอยปริ่มน้ำแบบนี้ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปยังท่าเรือศรีเจริญ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปตามลำน้ำเจ้าพระยาประมาณ 4-5 กิโลเมตร ส่วนเรือที่ลอยขึ้นมาบางส่วนยังไม่พบศพผู้สุญหายที่มีอีก 2 ราย ที่ต้องค้นหาอยู่ลอยออกจากเรือแต่อย่างใด มีแต่เพียงทรัพย์สินจำพวกกระเป๋า และสิ่งของลอยน้ำได้ลอยออกมาจากลำเรือที่จมเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่บริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย ตรงจุด เรือล่ม อยุธยา นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการกู้เรือ พร้อมเปิดเผยขั้นตอนการกู้ซากเรือล่มว่า เมื่อช่วงเช้าได้ส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจรอยแผลใต้ท้องเรือ เบื้องต้นพบว่า มีรอยชำรุดบริเวณกาบขวา ช่วงหัวเรือถึงกลางเรือ กว้าง 1 เมตร ยาว 7 เมตร แต่โครงสร้างหลักไม่เสียหาย โดยหลังจากนี้จะต้องดำเนินการอุดรอยรั่วดังกล่าวโดยใช้วัสดุเป็นยาง หรือสังกะสี ส่วนจะยกลงมาอุดรอยรั่วก่อนหรือไม่ต้องประเมินสถานการณ์ก่อน และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 1 ราย คือ นางทองใบ ขันธรักษ์ อายุ 89 ปี รวมผู้เสียชีวิตล่าสุด ณ เวลา 17.40 น. เป็น 28 ราย
อ่านข่าว เรือล่ม อยุธยา เพิ่มเติมได้ที่
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094824
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น